ถ้าต้องการบำบัดความเหนื่อยล้าด้วยการไปเที่ยว และกำลังมองหาจุดหมายปลายทางสักแห่ง สำหรับทริปพักกายพักใจ เราว่าหลวงพระบางเป็นเมืองที่เหมาะที่สุด จังหวะของเมืองเป็นไปอย่างไม่เร่งรีบ เป็นความช้าที่ไม่น่าเบื่อ มีทิวทัศน์สวยๆ ของแม่น้ำโขง แม่น้ำคาน ภูเขา และยังเป็นเมืองมรดกโลกที่เปี่ยมเสน่ห์ ทั้งในด้านวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม วัดวาอาราม อาคารบ้านเรือนสวยๆ มีให้ชมในเมืองเล็กเมืองนี้ การไป เที่ยวหลวงพระบาง สำหรับคนไทยแล้ว เรียกได้ว่าแทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรมากเลยล่ะ

รู้ไว้หน่อย ก่อนไปหลวงพระบาง

• เวลา ตรงกันกับบ้านเราไม่ต้องปรับนาฬิกาให้วุ่นวาย
• อากาศ ก็ใกล้เคียง ออกจะเย็นกว่าบ้านเราเล็กน้อยทำให้เดินเที่ยวสบาย
• อาหารการกิน ก็คล้ายๆ กัน มีเมนูที่เคยคุ้นอยู่หลายอย่าง
• ภาษา พูดไทยได้เลย คุยกันรู้เรื่อง
• วีซ่า คนไทยไปเที่ยวลาวไม่ต้องขอวีซ่า อยู่ได้ 30 วัน
• เงิน ลาวใช้เงินกีบ จะพกเงินไทยไปใช้ก็ได้ แต่อาจจะขาดทุนนิดหน่อย แนะนำว่าไปแลกเงินกีบที่สนามบินหลวงพระบางได้เลย
• ซิมโทรศัพท์ ซื้อซิมลาวที่สนามบินหลวงพระบาง มีหลายเครือข่ายให้เลือกในราคาไม่กี่ร้อย

ไปหลวงพระบาง เดินทางยังไง

จากไทยแลนด์บ้านเราไปหลวงพระบางได้ทั้งทางบก ทางน้ำ และอากาศ ถ้ามีเวลามากหน่อยการเดินทางด้วย เรือช้า เป็นอะไรที่สุนทรีย์มาก เมื่อแปดปีก่อนตอนไปหลวงพระบางครั้งแรก เราก็เลือกเดินทางด้วยเรือช้านี่แหละ จากเชียงของ จ.เชียงราย ข้ามฝั่งไปห้วยทราย สปป.ลาว แล้วนั่งเรือไปหลวงพระบาง เป็นเวลารวมสองวันหนึ่งคืน (แวะนอนที่ปากแบง สปป.ลาว)

ถ้าไม่ชอบนั่งเรือ จะเลือกเดินทางด้วย รถโดยสาร ก็ได้ ข้ามฝั่งที่หนองคายเข้าเวียงจันทน์ วิ่งรถยาวๆ ไปจนถึงหลวงพระบางใช้เวลาราวๆ 10 ชั่วโมงขึ้นไป ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับอากาศและสภาพถนนในช่วงนั้นๆ

แต่วิธีเดินทางที่สะดวกที่สุดก็ต้องทาง เครื่องบิน นี่ล่ะ ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง 30 นาที เท่านั้นเอง มีหลายสายการบินทั้งแบบ Full Service และ Low Cost เลือกได้ตามชอบ เช็คราคาและจองตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka จบง่ายๆ ได้ในสมาร์ทโฟนแค่ไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้นเอง

นอนไหนดี ที่หลวงพระบาง

ด้วยความที่เป็นเมืองท่องเที่ยว ทำให้มีที่พักหลายแบบหลายราคาให้เลือก ตั้งแต่โรงแรมห้าดาวสุดหรู ไปจนถึงเฮือนพักราคาย่อมเยาว์ ทริปนี้เราเลือกจองที่พักกับ Traveloka เพราะว่าราคาดีแล้วยังมีโค้ดส่วนลดเป็นโปรโมชั่นเพิ่มอีก ราคาที่โชว์ก็เป็นราคาสุดท้ายแล้ว ไม่มีบวกเพิ่มอะไรอีกทั้งสิ้น โดยในหน้าของโรงแรมที่เราเข้าไปดู จะมีแผนที่บอกระยะทางสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับที่พักด้วย ไม่ต้องเปิดเช็คทาง google map อีกรอบ สะดวกมากๆ เลยล่ะ

เที่ยวหลวงพระบาง 5 วัน 4 คืน

จริงๆ แล้วเราสามารถเที่ยวเก็บไฮไลต์ได้ครบใน 3 วัน 2 คืน แต่เราเลือกที่จะอยู่ 5 วัน ให้มันสมกับความคิดถึงที่ไม่ได้มาตั้งหลายปี ที่สำคัญคือเรารู้สึกว่าจังหวะของหลวงพระบางนั้นเนิบช้า เราควรใช้เวลาซึมซับบรรยากาศและวิถีชีวิตของที่นี่ให้เต็มที่ แผนของทริปนี้ก็เลยออกมาเป็นสามวันแรกเที่ยว สองวันหลังชิล และในทุกวันต้องได้กินอาหารท้องถิ่น 🙂

หลวงพระบางเป็นเมืองเล็ก การเดินทางเที่ยวในหลวงพระบางเลยง่ายไปหมด จะเดินก็ได้ หรือปั่นจักรยาน เช่ามอร์เตอร์ไซต์ ทางที่พักก็มักจะมีให้เช่า หรือถ้าเดินๆ อยู่แล้วเมื่อย ก็มีรถสองแถว รถสกายแล็ปวิ่งไปมาให้โบกเรียกได้ตลอด

6 จุดเช็คอิน และ 2 กิจกรรมห้ามพลาด

พระราชวังหลวงพระบาง

สถานที่สำคัญของเมืองหลวงพระบาง พระราชวังหลวงที่อยู่ริมแม่น้ำโขง ตัวอาคารผสมผสานความเป็นตะวันตกและลาวเข้าด้วยกัน ปัจจุบันปรับมาเป็นพิพิธภัณฑ์ ด้านในแบ่งเป็นห้องจัดแสดงโบราณวัตถุ ของเก่าของมีค่าของลาว รวมไปถึง “พระบาง” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง โดยในส่วนของอาคารพิพิธภัณฑ์นี้ห้ามนำกล้อง โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋า เข้าไปด้านใน แนะนำว่าหลังจากซื้อบัตรแล้วให้เดินไปที่ห้องล็อคเกอร์ เก็บกระเป๋าสัมภาระให้เรียบร้อยก่อนจะสะดวกที่สุด

พิกัด : พระราชวังหลวงพระบาง ถนนศรีสว่างวงศ์
เปิดให้เข้าชม 2 ช่วง : เช้า 08.00-11.30 น. และ บ่าย 13.30-16.00 น.
ค่าเข้าชม 30000 กีบ
ปิดทุกวันอังคาร

วัดเชียงทอง

วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง เป็นภาพจำที่หลายคนนึกถึงเมื่อพูดถึงหลวงพระบาง มีจุดเด่นคือ “สิม” หรือพระอุโบสถที่เป็นแบบหลวงพระบางแท้ มีหลังคาซ้อนสามตับ ดัดอ่อนโค้งลาดต่ำลงมามาก ผนังประดับด้วยลายรดน้ำปิดทองบนพื้นสีดำ อีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปก็คือ หอไหว้สีกุหลาบ ที่ผนังประดับด้วยกระจกสีตัดเป็นภาพเล่าเรื่องต่างๆ

พิกัด : วัดเชียงทอง ถนนสักรินทร์ 
ค่าเข้าชม 20000 กีบ

พระธาตุพูสี

จุดที่สามารถมองเห็นได้ทั้งเมืองหลวงพระบาง แม่น้ำโขง และแม่น้ำคาน แต่ต้องแลกมาด้วยการเดินขึ้นเขาสูง 150 เมตร นับขั้นบันไดไป 328 ขั้น มันก็อาจจะเหนื่อยหน่อยแต่รับประกันว่าเมื่อได้เห็นทิวทัศน์ข้างบนแล้วต้องหายเหนื่อย กราบนมัสการพระธาตุแล้วนั่งอิ่มเอมบรรยากาศ โดยเฉพาะยามเย็นช่วงพระอาทิตย์ตกยิ่งสวยสะกดใจ

พิกัด : พระธาตุพูสี
ค่าเข้าชม 20000 กีบ

ตลาดมืด

ช่วงเย็นเดินขึ้นพูสีไปชมพระอาทิตย์ตก เสร็จแล้วเดินลงมาทางถนนศรีสว่างวงศ์ก็จะเจอกับตลาดมืดพอดี มีของใช้ของฝากให้จับจ่าย เป็นถนนคนเดินแบบหลวงพระบางที่กระตุ้นต่อมช็อปปิ้งดีนักเชียว ร้านค้าเรียงยาวเต็มถนน เดินดูไปสินค้าแต่ละร้านก็จะคล้ายๆ กันค่ะ ชอบใจร้านไหนก็ตกลงต่อรองกันไป เดินแป๊บๆ ได้ของเต็มไม้เต็มมือไม่รู้ตัว

พิกัด : ตลาดมืด

ตาดกวางสี หรือ น้ำตกกวางสี

ตาด เป็นภาษาลาวแปลว่า น้ำตก ตาดกวางสีเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง แม้ว่าจะอยู่ไกลจากตัวเมืองหลวงพระบางออกไป แต่ก็คุ้มกับการเดินทาง น้ำตกกวางสีเป็นน้ำตกหินปูนสูงกว่า 70 เมตร พื้นน้ำเป็นสีฟ้าใส เส้นทางเดินชมน้ำตกกวางสีจะมีทางเดินสองทาง แนะนำว่าเข้าทางเข้าไปแล้วให้เดินไปทางขวา ลงไปด้านล่างแล้วค่อยๆ ไล่ขึ้นด้านบน จะได้เห็นความงามของน้ำตกทีละขั้น จากชั้นล่างๆ สู่ชั้นบนสุด

พิกัด : ตาดกวางสี
การเดินทาง : เราเหมารถ mini van พร้อมคนขับครึ่งวัน โดยติดต่อทางที่พักจัดหาให้ในราคา 1100 บาท
เปิด 06.00-17.30 น.
ค่าเข้าชม 20000 กีบ

ตลาดเช้า

ไปเที่ยวที่ไหน ถ้าอยากเข้าถึงวิถีชีวิตของคนที่นั่น ให้ไปเดินตลาดเช้า รับประกันความตื่นตาตื่นใจ จะว่าไปบรรยากาศวางของขายแบกะดินบนถนนก็คล้ายๆ ตลาดเช้าตามต่างจังหวัดบ้านเรา แต่ของที่ขายนี่สิ มีของแปลกๆ ที่ไม่เคยเห็นหลายอย่าง รวมไปถึงของกินในตลาดก็น่าสนใจไม่น้อย เดินไป ช็อปไป ชิมไป มันเพลินใจเพลินพุงดีจริงๆ

พิกัด : ตลาดเช้า

ล่องเรือแม่น้ำโขง ชมพระอาทิตย์ตก

สำหรับเราแล้ว แม่น้ำโขงมีเสน่ห์ชวนให้หลงใหลเป็นที่สุด เราหลงรักแม่น้ำโขงก็ตั้งแต่ตอนนั่งเรือช้ามาหลวงพระบางคราวก่อนนั่นแหละ แต่สำหรับใครที่ไม่มีเวลาจะนั่งเรือข้ามวันขนาดนั้น ก็ยังสามารถสัมผัสมนต์เสน่ห์ของแม่น้ำโขงได้เหมือนกัน  ติดต่อเหมาเรือได้ที่ท่าเรือหน้าวัดเชียงทอง ตกลงเส้นทางกับคนขับเรือได้เลย จะไปชมถ้ำติ่งด้วยก็ได้ หรือจะแค่ล่องเรือชิลบรรยากาศ ชมวิวยามเย็นพระอาทิตย์ตกอย่างเดียวก็ได้เหมือนกัน

ตักบาตรข้าวเหนียว

หลวงพระบางเป็นเมืองเล็กที่มีวัดอยู่เยอะมาก ถนนบางเส้นมีวัดตั้งอยู่ติดๆ กันแทบทั้งเส้น ช่วงเวลาราวๆ หกโมงเช้า พระจะออกบิณฑบาตรเป็นแถวยาว ชาวหลวงพระบางก็จะมานั่งรอตักบาตรริมถนน นักท่องเที่ยวก็ร่วมตักบาตรได้เหมือนกัน สามารถรอตักบาตรได้หลายจุด แต่จุดที่นิยมกันมากคือหน้าวัดแสนสุขาราม ข้าวเหนียวของใส่บาตรทางที่พักส่วนมากจัดให้ได้ หรือจะซื้อกับแม่ค้าที่หน้าวัดต่างๆ ก็ได้เหมือนกัน

สิ่งสำคัญที่เราอยากฝากไว้คือ การตักบาตรข้าวเหนียวเป็นวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบาง ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวให้ความเคารพในการร่วมตักบาตร แต่งกายให้สุภาพ ไม่ถ่ายรูปใช้แฟลช ไม่ขวางการเดินบิณฑบาตรของพระ เพื่อให้วีถีที่สวยงามนี้ยังคงอยู่ต่อไปนะคะ

9 พิกัดของกิน อาหารท้องถิ่นและคาเฟ่

เชียงทองโพนสะหวัน

ร้านอาหารริมแม่น้ำโขงบรรยากาศสบายๆ มีรายการอาหารท้องถิ่นหลายอย่าง เมนูแนะนำที่ทางร้านฮาร์ดเซลอย่างหนักหน่วง ก็คือ “แจ่วขี้ปลา” ทำจากไส้และเครื่องในปลา รสชาติดีเกินหน้าตาไปมากเลย “ไคแผ่น” หรือสาหร่ายแม่น้ำโขงของร้านนี้ก็กรอบอร่อยไม่อมน้ำมัน

พิกัด : ร้านเชียงทองโพนสะหวัน

ข้าวเปียกวัดเชียงทอง

ร้านนี้อยู่ใกล้วัดเชียงทอง เป็นร้านที่เปิดขายในบ้าน เมนูมีแค่ข้าวเปียกเท่านั้นไม่มีอย่างอื่น ข้าวเปียกเส้นนุ่มเหนียวกำลังดี น้ำซุปข้นเล็กน้อยรสกลมกล่อมแบบไม่ต้องปรุง เติมขิงดองสับสักนิดเพิ่มมิติในรสชาติ

พิกัด : ข้าวเปียกวัดเชียงทอง

ลาวเดิม

เมนูอร่อยที่ชอบมากคือ “จืนซิ่นทุบหมูป่า” เป็นหมูป่าแดดเดียวทุบให้แบนแล้วทอด กินกับแจ่วบ่องรสแซ่บ อร่อยมากจนต้องขอแจ่วบองเพิ่มอีกถ้วย อีกเมนูที่อยากแนะนำคือ “เอาะหลาม” เป็นอาหารประจำเมืองหลวงพระบาง ใส่วัตถุดิบหลายอย่าง น้ำแกงข้นเล็กน้อยจากข้าวเหนียวที่เคี่ยวจนข้น มีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัวจากไม้สะค้าน ลองชิมมาหลายร้านแล้ว เราชอบเอาะหลามของร้านนี้ที่สุด

พิกัด : ร้านอาหารลาวเดิม

ส้มตำป้าติ๋ม

ร้านส้มตำเจ้าดัง ไปนั่งกินแล้วนึกว่าอยู่ประเทศไทย เพราะว่าลูกค้าคนไทยเยอะมาก เมนูเด็ดก็ต้อง “ตำหลวงพระบาง” รสชาติแซ่บนัว มะละกอฝานบาง กรอบอร่อย แต่ที่เราว่าเด็ดกว่าคือ “แหนมย่าง” เปรี้ยวไม่มากกำลังอร่อย ข้างนอกกรอบนิดๆ

พิกัด : ร้านส้มตำป้าติ๋ม

ประชานิยม

ร้านอาหารเช้าสไตล์บ้านๆ ข้าวต้ม ชา กาแฟ ปาท่องโก๋ ไข่ลวก ในบรรยากาศแบบสภากาแฟริมแม่น้ำโขง เป็นอีกร้านที่นักท่องเที่ยวไทยนิยมไปเช็คอิน

พิกัด : ร้านกาแฟประชานิยม

เฝอนางน้อย ตลาดมืด

เดินเล่นในตลาดมืดเริ่มหิว มาเจอร้านนี้มีขายทั้งเฝอ ข้าวซอย และข้าวเปียก สั่งเฝอและข้าวเปียกอย่างละชาม ทุกอย่างเหมือนกันต่างกันแค่เส้น รสชาติดี ชามใหญ่ ราคาไม่แพง ข้างๆ มีร้านข้าวเหนียวจี่ลาวอร่อย ซื้อมากินเล่นระหว่างรอเฝอก็ได้

พิกัด : มุมถนนหน้า Tourist Information

ข้าวปุ้น ข้าวซอย ตลาดเช้า

ของกินในตลาดเช้ามีหลากหลายน่าลองไปหมด เดินผ่านร้านนี้น้ำซุปหอมเตะจมูก ต้มบนเตาฟืน หม้อดำจากเขม่าควันเหมือนผ่านประสบการณ์มายาวนาน เสิร์ฟชามใหญ่ๆ เครื่องแน่นๆ ข้าวซอยคล้ายทางแม่สายเป็นก๋วยเตี๋ยวใส่หมูสับผัดน้ำพริก และข้าวปุ้นเป็นต้มเครื่องในใส่เส้นขนมจีน

พิกัด : Khao Bun Nang Ou

Saffron Coffee

สำหรับสายกาแฟตัวจริงต้องมาเช็คอินร้านนี้เลย เป็นร้านที่มีบรรยากาศความเป็นร้านกาแฟสูงมาก ตัวร้านเป็นบ้านเก่าสวย อีกฝั่งเป็นที่นั่งริมแม่น้ำโขงบรรยากาศสุดชิล มีเมนูกาแฟและเมล็ดกาแฟลาวให้เลือกหลากหลาย รับประกันถูกใจคอกาแฟแน่นอน

พิกัด : Saffron Coffee

Le Banneton

คาเฟ่ที่ขึ้นชื่อเรื่องครัวซองต์ ว่ากันว่าที่นี่มีครัวซองต์ที่อร่อยที่สุดในหลวงพระบาง ดูแล้วก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะเราไปตอนบ่าย ครัวซองต์หมดแล้ว! เลยสั่งเป็นครัวซองต์แฮมชีสซึ่งเหลือไม่กี่ชิ้นมาแทน ยอมรับเลยว่าอร่อยจริง ยังมีขนมน่าลองอีกหลายอย่างเลย คนรักขนมอบไม่ควรพลาดเด็ดขาด

พิกัด : Le Banneton

จากทริปหลวงพระบางครั้งแรกเมื่อแปดปีก่อน จนถึงทริปล่าสุดในครั้งนี้ หลวงพระบางยังคงมีเสน่ห์มัดใจให้อยากกลับไปอยู่เสมอ ทั้งวิถีชีวิต ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม ธรรมชาติ อาหารท้องถิ่น รวมๆ แล้วมันถูกจริตไปเสียทั้งหมด คิดว่าทริปหน้าคงไม่รอให้ถึงแปดปี อยากไปอีกตอนนี้เลยจริงๆ

** สนใจลงรีวิวในเว็บไซต์  letscheckinmag.com ติดต่อได้ทางอีเมล letscheckinmag@gmail.com หรือทาง Facebook : Let’s Check in เรื่องกิน เรื่องเที่ยว

*** บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ letscheckinmag.com กรุณาสนับสนุนทีมงานด้วยการแชร์ link กลับมายังเว็บ letscheckinmag.com เท่านั้น ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ หรือดัดแปลงส่วนใดไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเด็ดขาด